ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

Daylight Saving Time (DST), Daylight Saving Time (DST) หมายถึง, Daylight Saving Time (DST) คือ, Daylight Saving Time (DST) ความหมาย, Daylight Saving Time (DST) คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
Daylight Saving Time (DST)

ในประเทศเมืองหนาว เช่น ประเทศแถบยุโรป พอย่างเข้าสู่ฤดูร้อนจะมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง หรือที่เราเรียกว่า Daylight Saving Time (DST) หรือบางครั้งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Summer Time และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวทุกคนก็จะปรับเวลากลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งจุดประสงค์หลักของการปรับเวลา Daylight Saving Time นั่นก็คือ การใช้ประโยชน์จากแสงดวงอาทิตย์ให้มากที่สุด

การปรับเวลายังช่วยประหยัดพลังงานจากการลดการใช้ไฟฟ้าในการให้แสงสว่างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เพราะถ้าร่นเวลาให้เร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง คนก็จะตื่นเร็วขึ้นมีเวลาทำอะไรระหว่างที่มีแสงสว่างอยู่มากขึ้น

เบนจามิน แฟรงกลิน นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเป็นคนแรกที่เกิดความคิดเรื่องการปรับเวลานี้ขึ้นมา โดยเขียนไปเสนอแนวคิดนี้กับบรรณาธิการของวารสาร The Journal of Paris ในปี 1784 แต่ไอเดียของเขากลับถูกมองว่าน่าขัน

แนวคิดนี้ได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังมากขึ้น เมื่อวิลเลียม วิลเล็ตต์ สถาปนิกชาวอังกฤษนำเสนอแนวทางดังกล่าวในหนังสือเรื่อง Waste of Daylight ในปี 1907 เนื่องจากเขาพบว่าหน้าร้อนพระอาทิตย์ขึ้นเร็ว แต่ก็มีคนน้อยมากที่ตื่นมารับแสงอรุณ ทำให้เกิดความรู้สึกเสียดายแสงแดดขึ้นมา วิลเล็ตต์ต่อสู้เป็นเวลาหลายปีเพื่อจะให้มีการปรับเวลาในอังกฤษ แต่เขาก็ตายก่อนที่ความคิดเขาจะถูกนำไปปฏิบัติ
      
การปรับเวลาถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยรัฐบาลเยอรมนีในปี 1916 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ตามติดมาด้วยอังกฤษ (1916) และสหรัฐอเมริกา (1918) แสงของช่วงกลางวันถูกใช้แทนแสงจากดวงไฟและช่วยประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งมีค่ายิ่งในช่วงสงคราม
      
หลังสงครามสหรัฐฯ ได้ยกเลิกการปรับเวลา แต่พอถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศที่เข้าร่วมสงครามต่างก็หันมาใช้ DST โดยทันทีเพื่อประหยัดพลังงานไว้ใช้ในยามสงคราม สหรัฐฯ เองก็ออกกฎหมายให้ปรับเวลาทั้งปีหลังการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์เพียง 40 วัน และหลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในการปรับเวลาอีกหลายครั้ง
      
ตอนนี้ช่วงเวลาของการใช้ Daylight Saving Time ในสหรัฐฯ กินเวลาทั้งสิ้นเกือบ 7 เดือน คือเริ่มตั้งแต่ 2 นาฬิกาของวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน จนกระทั่งถึง 2 นาฬิกาของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม โดยการปรับเวลาก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละเขตเวลา (time zone)
      
ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าดินแดนที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรส่วนใหญ่ไม่ค่อยวุ่นวายเรื่องปรับเวลากัน เพราะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก หรือความยาวของช่วงกลางวันเท่าใดนัก อย่างบางส่วนของสหรัฐฯ เช่น รัฐแอริโซนา ฮาวาย เขตเวลาทางตะวันออกของอินเดียนา และบริเวณเกาะที่เป็นของสหรัฐฯ อย่าง เปอร์โตริโก ยูเอสเวอร์จินไอส์แลนด์ อเมริกันซามัว และกวม ที่เลือกใช้เวลามาตรฐานตลอดทั้งปีโดยไม่มีการปรับเวลา
      
แต่มีบ้างเหมือนกันที่เลือกปรับเวลาเพื่อประหยัดพลังงาน หรือด้วยเหตุผลอื่น เช่น เม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศเขตร้อน แต่ขอใช้ DST ทั่วประเทศกับเขาด้วย เนื่องจากว่ามีความผูกพันทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ มาก เลยขอปรับเวลาตาม ยกเว้นรัฐเดียวคือรัฐโซโนราซึ่งมีพรมแดนติดกันรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ที่ขอไม่ปรับเวลาตามแบบแอริโซนา
      
ปัจจุบันมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 70 ประเทศที่มีการปรับเวลา อย่างประเทศในสหภาพยุโรป (กลุ่มอียู) จะเริ่มปรับเวลาในเวลา 1 นาฬิกาของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม และปรับคืนในเวลา 1 นาฬิกาของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคมโดยไม่มีการแบ่งเขตเวลา
      
สำหรับชาวรัสเซีย ช่วงฤดูร้อนจะหมุนเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเวลาปกติ 2 ชั่วโมง และในช่วงฤดูหนาว เวลาของเขตเวลาทั้ง 11 เขตของรัสเซียจะยังคงเร็วกว่าเวลาปกติอยู่ 1 ชั่วโมง
      
ด้านประเทศในซีกโลกใต้ที่ฤดูร้อนจะมาเยือนในเดือนธันวาคมนั้น จะใช้ Daylight Saving Time ในเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม
      
ส่วนกำหนดการที่จะให้คนปรับนาฬิกาของตัวเองนั้น มักจะกำหนดไว้เป็นช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าต้องการหลีกเลี่ยงความสับสนอลหม่านที่ต้องเกิดขึ้นแน่ๆ กับคนขี้ลืม ซึ่งจะทำให้ชีวิตวุ่นวายมากถ้าปรับเวลาในวันธรรมดา

ที่มา sweetjunior


Daylight Saving Time (DST), Daylight Saving Time (DST) หมายถึง, Daylight Saving Time (DST) คือ, Daylight Saving Time (DST) ความหมาย, Daylight Saving Time (DST) คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu