ความหมายการแปล ปัญหาการแปล ลักษณะของการแปล และคุรสมบัติของนักแปลที่ดี?
ปัญหาการแปลไทยเป็นอังกฤษและอังกฤษเป็นไทย ขอละเอียดหน่อยนะค่ะ หนูทำรายงานเรื่องการแปล
ปัญหาการแปลไทยเป็นอังกฤษและอังกฤษเป็นไทย ขอละเอียดหน่อยนะค่ะ หนูทำรายงานเรื่องการแปล
ชนิด ลักษณะของการแปล การแปลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด อย่างกว้าง ๆ ดังนี้ 1 การแปลตรงตัว literal translation ndash หรือการแปลตามตัวอักษร เป็นการแปลโดยพยายามคงความหมายและโครงสร้างของต้นฉบับไว้มากที่สุด มุ่งความถูกต้องแม่นยําเป็นหลัก แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง Structure และการใช้คําบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามหลักการใช้ภาษาของภาษาฉบับแปล การแปลลักษณะนี้ใช้ในกลุ่มนักวิชาการหรือกลุ่มเฉพาะอาชีพที่ต้องการความถูกต้องของ สาระข้อเท็จจริง เพื่อจุดประสงค์ในด้านการศึกษาค้นคว้าหรือการนําไปปฏิบัติ เช่น การแปลฉลากยา ขั้นตอนการทดลอง คู่มือปฏิบัติการเป็นต้น นอกจากนี้ กฎหมายสนธิสัญญาระหว่างประเทศ รายงาน และเอกสารราชการต่าง ๆ ก็ใช้วิธีการแปลแบบตรงตัวเช่นกัน 2 การแปลสรุปความ หรือเอาความ non-literal translation ndash การแปลลักษณะนี้ ไม่ได้มุ่งรักษาโครงสร้าง ตามความหมายหรือรูปแบบของต้นฉบับอย่างเคร่งครัด มีการโยกย้ายขยายความหรือตัดทอน หรือเปลี่ยนแปลงรูปคํ าหรือไวยากรณ์ได้ การแปลลักษณะนี้นิยมใช้กับเรื่องที่ไม่จํ าเป็นต้องรักษาความถูกต้องแน่นอนของต้นฉบับ ใช้ในสื่อมวลชนทุกประเภทโดยเฉพาะเพื่อความบันเทิงผู้แปลอาจอ่านจบทีละย่อหน้า ทําความเข้าใจกับเนื้อหา วิธีคิด จุดมุ่งหมายของผู้เขียนและสิ่งที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เมื่อสรุปเนื้อหาหลักของต้นฉบับแล้วจึงถ่ายทอดออกมาโดยเรียบเรียบใหม่ และการแปลลักษณะนี้เป็นการแปลที่นิยมแพร่หลาย ตัวอย่างของการแปลลักษณะนี้ คือ การแปลนวนิยายเรื่องสั้น นิทาน บทวิทยุ โทรทัศน์ ลักษณะของภาษาในงานแปลที่ดี ภาษาในการแปลที่ดีควรมีลักษณะดังนี้ 1 มีความชัดเจน คือเป็นภาษาที่มีลักษณะกระชับ ไม่ใช้คําที่ไม่จําเป็น รูปประโยคควรเป็นประโยคสั้น ๆ หลีกเลี่ยงโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน สลับที่ ใช้ข้อความที่แสดงความคิดได้แจ่มแจ้ง เช่น ประโยคเดียวแสดงความคิดเดียว ไม่กํากวมหรือชวนให้ตีความได้หลายแง่หลายมุม 2 มีความเหมาะสม ผู้แปลต้องเลือกใช้ลีลาการเขียนให้สอดคล้องกับลักษณะของเรื่องที่จะแปล เช่น ถ้าแปลนวนิยายก็อาจใช้สํ านวนโวหารเหมาะ ๆ ให้เกิดภาพพจน์ได้ แต่ถ้าแปลงานด้านกฎหมายหรือการแพทย์ต้องใช้ศัพท์เฉพาะ และลีลาการเขียนที่สั้น ๆ ไม่ใช้คําหรูหราหรือสํานวนอ้อมค้อมแต่อย่างใด 3 มีความเรียบง่าย ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและสัมพันธ์กับความคิดที่กระจ่างแจ้งและต้องตรงตามต้นฉบับ 4 มีความสมเหตุสมผล ในภาษาแต่ละภาษา มีความสมเหตุสมผลต่างกัน เวลาแปลภาษาที่ใช้ก็ต้องให้มีความสมเหตุสมผลเท่า ๆ กับที่ภาษาต้นฉบับมีด้วย คุณสมบัติของนักแปลที่ดี นักแปลที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้ คือ 1 ต้องเข้าใจนัย sense และความหมาย meaning ของผู้เขียนต้นฉบับเป็นอย่างดีว่าผู้เขียนมีจุดประสงค์ อย่างไร ต้องการจะให้อะไรกับผู้อ่าน เพื่อจะได้ถ่ายทอดจุดประสงค์นั้น ๆ ไปยังผู้อ่านฉบับแปลได้ถูกต้อง 2 ผู้แปลต้องมีความรู้ทั้งภาษาต้นฉบับและภาษาฉบับแปลอย่างดีเยี่ยม เพื่อจะให้แปลได้อย่างถูกต้อง 3 ผู้แปลควรพยายามเลี่ยงการแปลคําต่อคําอย่างที่สุด มิฉะนั้นจะทําให้ผู้อ่านฉบับแปลไม่สามารถเข้าใจฉบับแปลได้ 4 ผู้แปลควรใช้รูปแบบของภาษาที่เป็นมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ และใช้กันอยู่ทั่วไปไม่ใช่คิดคําสแลงใหม่ ๆ ขึ้น หรือใช้คํ าที่ไม่สุภาพไม่เป็นที่นิยม 5 ผู้แปลต้องรู้จักเลือกใช้ถ้อยคําสํานวนที่เหมาะสม ให้ถูกต้องกับความหมายตามต้นฉบับและรักษาบรรยากาศ tone ของต้นฉบับไว้ กล่าวโดยย่อก็คือ ผู้แปลต้องเข้าใจภาษาทั้งสอง คือทั้งภาษาต้นฉบับและภาษาฉบับแปลเป็นอย่างดี ต้องมีความรู้และภูมิหลังในเรื่องที่จะแปลพอสมควร ต้องมีความสามารถใช้ภาษาอย่างดีเพื่อที่จะได้ถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนต้นฉบับให้ผู้อ่านฉบับแปลรู้เรื่อง เข้าใจและอ่านได้อย่างอรรถรส ข้อมูลจาก
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!