น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน (Sunflower Oil) ในเมล็ดดอกทานตะวันนั้นอุดมไปด้วยน้ำมัน และวิตามินอี น้ำมันที่ได้จากเมล็ดทานตะวันจะมีกรดไลโนเลอิกสูงถึง 44-75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความจำเป็นต่อร่างกาย สามารถป้องกันการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด ป้องกันโรคฆลอดเลือดหัวใจ ส่วนวิตามินอีจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คอยดักจับ และทำลายของเสียที่จะมาทำลายเซลล์ต่างๆ ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลดไขมันในเส้นเลือ ป้องกันการเกิดมะเร็ง บำรุงสายตา ป้องกันการเป็นหมัน การแท้ง และป้องกันเนื้อเยื่อปอดถูกทำลายจากอากาศ
นอกจากนี้ยังมีกรดไขมัน CLA (Conjugated Acid) คือกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ มีประโยชน์ในการเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเพิ่มโฮโมนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ข่วยในการเผาผลาญไขมันสะสมมาใข้เป็นพลังงานอย่างเต็มที่ พร้องทั้งลดปริมาณการเกิดไขมันสะสมที่จะเกิดใหม่ด้วย
ปัจจุบันนี้นอกจากน้ำมันพืชจากปาล์ม ถั่วเหลือง และรำข้าวแล้ว ยังมีน้ำมันพืชอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือน้ำมันพืชจากเมล็ดดอกทานตะวัน หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าน้ำมันพืชจากเมล็ดดอกทานตะวันนี้ดีหรือไม่อย่างไร
เดิมแล้วดอกทานตะวันนั้นนิยมปลูกเป็นพืชดอก แต่ต่อมาได้มีการนำเมล็ด จากดอกทานตะวันมาสกัดน้ำมันเพื่อใช้ในการบริโภค โดยที่น้ำมันที่ได้จากเมล็ดทานตะวันนี้ เป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีกรดลิโนเลอิก(กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย)สูงถึง 44-75% ทีเดียวครับ(คณาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ม.เกษตรศาสตร์, 2539) นอกจากนี้แล้วก็มีค่าความไม่อิ่มตัว(Degree of unsaturated)ของกรดไขมัน(วัดโดยใช้ค่า Iodine Value) อยู่สูงใกล้เคียงกับของน้ำมันถั่วเหลือง คือของน้ำมันถั่วเหลืองจะมีค่าประมาณ 134 และของน้ำมันทานตะวัน จะมีค่าประมาณ 132 และยังไม่มีคอเรสเตอรอลอีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยต่อสุขภาพได้ใกล้เคียง กับน้ำมันถั่วเหลืองแน่นอน(หรืออาจจะดีกว่า)
แต่ถ้าถามว่าควรจะหันมาใช้น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวันแทนน้ำมันพืชทั่วๆไปดีมั้ย ผมก็ขอตอบว่ายังไม่ควรครับ เนื่องจากว่าตอนนี้น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวันยังมีราคาค่อนข้างสูงกว่า น้ำมันพืชทั่วๆไป ทั้งนี้เนื่องจากเกษตรกรยังไม่ปลูกดอกทานตะวันเพื่อการสกัดน้ำมันมากนัก คงต้องรอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนในเรื่องการเพาะปลูกก่อนครับ แต่ถ้าท่านใดที่ค่อนข้างมีฐานะดีหน่อย ก็น่าจะลองหามาใช้ดู
ที่มา
https://www.gogi-foods.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=168166&Ntype=5
https://members.tripod.com/foodonline/0104-2.html
