เรื่องรักใน..ออฟฟิศ
1. อย่าเอา ‘รัก’ มาปนจนป่นปี้ คุณต้องแยกให้ออกระหว่าง ‘รัก’ และ ‘ภาระ’ กรุณาอย่าเอาเรื่องงานและความสัมพันธ์ส่วนตัวมาปนกันจนเละเทะ ถ้าคุณเป็นหัวหน้าและกำลังพิจารณาขึ้นเงินเดือนให้ลูกน้อง คุณควรพิจารณาให้ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อผ้า ไม่ใช่ดูว่าผ้าของใครสั้นกว่ากัน
ที่สำคัญคุณควรเรียงลำดับความสำคัญให้ดี คุณควรจะสะสางงานให้เรียบร้อยก่อนเดทเพื่อจะไม่ต้องกังวลว่าจะทำงานที่ต้องส่งท ันหรือเปล่า ถ้าคุณกำลังคิดถึงเรื่องเด็ดเผ็ดร้อนกับเลขาสาวหน้าห้องอยู่ละก็หยุดความคิดนั้ นได้เลยครับกรุณาดูกรณี ‘ตำนานฉาวแห่งทำเนียบขาว’ ของบิล คลินตัน เป็นอุทาหรณ์ เรื่องแบบนี้มันมีได้แค่ในนิยายอีโรติกเท่านั้น โปรดจำไว้ว่า ‘ตกหลุมรัก’ กับ ‘ตกงาน’ มันอยู่ใกล้กันกว่าที่คิด
2. เพิ่ม ‘กำลังใจ’ หรือเพิ่ม ‘ความลำบากใจ’ จริงอยู่ว่าการได้แอบสบตาคนที่คุณรักในช่วงบ่ายที่คุณทำงานจนเหนื่อยล้าจะช่วยค ืนความสดชื่นให้ชีวิตที่แห้งแล้งของคุณ การแอบลุ้นว่าใครเป็นคนแอบเอาขนมคุกกี้ผูกโบว์สีชมพูและเขียนว่า ‘รักนะ...เด็กโง่’ มาวางไว้เป็นปริศนาบนโต๊ะทำงานของคุณ
ฟังดูสนุกกุ๊กกิ๊กดี หรือการแอบไปทานมื้อกลางวันกันสองต่อสองจะช่วยให้รสชาติอาหาร ‘หวาน’ กว่าเดิมจนไม่อยากกลืน ในทางกลับกัน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณทั้งสองมีอันต้องแยกทางกันแต่ยังต้องทนลำบากใจอยู่ในที่ ทำงานเดียวกันอยู่ นอกจากจะเสียน้ำตาให้กับเพลง ‘ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ’ คุณยังจะสร้างบรรยากาศมาคุ ให้กับเพื่อนร่วมงานเวลาที่คุณสองคนต้องเผชิญหน้ากันอีกด้วย
3. ไม่อยากให้เธอไว้ใจ เราไม่ได้ให้คุณเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย แต่เราอยากให้คุณระมัดระวังตัวไว้บ้าง ก็แหม...คนสมัยนี้ร้อยเล่ห์เพทุบาย ของแบบนี้คงต้องดูกันนานๆ อย่าเพิ่งไว้ใจใครง่ายๆ เป็นอันขาด ลูกน้องบางคนอาจจะแกล้งอ่อยหัวหน้าเพื่อเรียกคะแนนสงสารเพิ่มเงินเดือนตัวเองก็ ได้
หัวหน้าบางคนอาจจะอ้างว่าจะตบรางวัลให้คุณทันทีที่คุณ ‘ยอม’ สักครั้ง หรือเรื่องประเภทการพนันของกลุ่มหนุ่มๆ เพื่อนร่วมงานว่า ใครจะ ‘ฟัน’ คุณน้องฝ้าย ดาวเด่นประจำฝ่ายขายก็มีให้เห็นอยู่ถมไป คุณควรสืบประวัติให้ดีว่าเขาหรือเธอคนนั้นที่คุณหมายปองอยู่จะ ‘เต็มร้อย’ กับคุณจริงหรือเปล่า
4. สาวๆ คาวๆ ฉาวๆ โฉ่ๆ จริงอยู่ว่า การที่เธออยู่ในสายตาของคุณอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการสืบเอาจากเพื่อนร่วมงาน จะช่วยให้คุณประเมินสถานการณ์ความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น เธอมีแฟนหรือยัง ใครจีบเธออยู่ เธอชอบอะไรเป็นพิเศษ ฯลฯ นอกจากนั้นคุณยังสามารถขอให้เพื่อนๆ
ในบริษัทช่วยคุณจีบเธอได้อีกด้วย แต่มองอีกด้านหนึ่ง ถ้าเดทแรกของคุณไม่เข้าท่าเอาเสียเลย หรือคุณทิ้งทุ่นเธออย่างไม่ใยดี แน่นอนว่าเรื่องของคุณจะกระฉ่อนไปทั่วทั้งบริษัทจนคุณแทบอยากลาออกมันเดี๋ยวนั้ น เป็นการดับอนาคตในกรณีที่คุณอยากเดทกับคนอื่นๆ ในบริษัทอีก คุณคงไม่อยากให้วีรกรรมอันฉาวโฉ่ของคุณประทับในประวัติศาสตร์ของบริษัทใช่ไหมคร ับ
เมื่อคุณลองพิจารณาชั่งใจดูข้อดี-ข้อเสียต่างๆ แล้วทีนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วละครับว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรคำนึงถึงเพื่อการทำงานอย่างมีความสุขก็คือ การดำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน และการสร้างความสมดุลระหว่างเรื่องรักและหน้าที่ของคุณให้ดี
ที่มา https://variety.teenee.com
ปิ๊งรักในออฟฟิศ ผิดไหม
รู้อยู่นะว่าหากมีรักในที่ทำงานมีแต่เสียมากกว่าได้
เสียอะไรบ้างล่ะ ก็ตั้งแต่เสียการเสียงาน เสียชื่อเสียงตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน เสียความเป็นส่วนตัวไปเยอะเชียวแหละ เพราะไม่ว่าทำอะไรควงถูกจับตามองจากเพื่อนร่วมงานจอมอยากรู้ทั้งหลายแน่นอน เรื่องแบบนี้ชอบกันนัก
แต่ก็อีกนั่นแหละ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจำนวนไม่น้อยไม่สามารถหักห้ามใจได้ แหม...คนอยู่ออฟฟิศเดียวกัน ทำงานร่วมกัน เดินสวนไปสวนกันมา เห็นหน้ากันทุกวี่ทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เผลอๆ เลยไปถึงภาคค่ำอีกต่างหาก เรียกว่าโอกาสเป็นใจ ยิ่งใกล้ชิดมาก ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ศรรักพุ่งปักอกเข้าเต็มเปา เรื่องแบบนี้ห้ามกันได้ที่ไหน
สำหรับความรักที่เกิดในที่ทำงานนับกันตามความสัมพันธ์แล้วได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
1. เป็นแค่แฟนกัน สัมพันธ์แบบนี้พบเห็นบ่อยที่สุด และมักเกิดกับพนักงานใหม่ๆ หรือพนักงานที่อายุไม่มากนัก ด้วยเป็นช่วงเริ่มต้นของการทำงานเท่านั้น บางคนพุ่งทะยานเพราะเริ่มต้นได้ดี แต่บางคนไม่รู้หนทางตัวเองด้วยซ้ำ จึงต้องระมัดระวังกันต่อไป
2. เป็นสามีภรรยากัน กรณีนี้มักก่อร่างสร้างตัวจากการเป็นแฟนมาก่อนนั่นแหละ จะว่าไปข้อนี้มีผลคล้ายๆ ข้อแรก ทว่ามีผลกระทบต่ออาชีพการงานรุนแรงกว่า ด้วยความสัมพันธ์ในรูปแบบสามีภรรยา ซึ่งลึกซึ้งและผูกพันกันมากกว่า ดังนั้นต้องระวัง เพราะหากไม่ซ้ายก็ขวา ไม่ขาวก็ดำ ไมต่ำก็สูง ขึ้นอยู่ว่าคุณจะเลือกเอาด้านไหนมากกว่า
3. เจ้านายกับลูกน้อง สัมพันธ์ความรักประเภทนี้เกิดขึ้นน้อยนะ แต่สามารถส่งผลทั้งตัวบุคคลและองค์กรรุนแรงที่สุด เพราะเป็นสภาวการณ์ที่มักมีผู้เฝ้ามอง อยากรู้อยากเห็น อยากเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากมีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสียในตำแหน่งหน้าที่การงานเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัด
4. แค่สัมพันธ์สวาท ประมาณรักซ้อนซ่อนเงื่อน เช่น สามีแอบไปมีอะไรกับหญิงอื่น ทางกลับกัน คือ ภรรยาแอบไปมีอะไรกับหนุ่มในออฟฟิศเดียวกันด้วย หรือเจ้านายที่มีครอบครัวแล้วมาหาของเล่นชั่วครั้งชั่วคราว ไม่จริงจังในที่ทำงานตัวเอง เรียกว่าสมภารกินไก่วัดนั่นเอง
ที่มา https://women.sanook.com
ระวังไว้ ก่อนจะตกหลุมรักใครในออฟฟิศ
เชื่อว่า อาจมีสาวๆ หรือ หนุ่มๆ หลายคนที่กำลังตกหลุมรักหนุ่มหน้าใส สาวหน้าหวาน ในที่ทำงานเดียวกัน และคงไม่มีปัญหาถ้าคนสองคนเกิดจะรักกันขึ้นมา และไม่ผิดนโยบายของบริษัท แต่ถ้าเขาหรือเธอคนนั้น กลับออกอาการไม่ปลื้มคุณ ระวังไว้เลยว่า บรรยากาศในการทำงานของคุณต้องเปลี่ยนไป!!
ดังนั้น มาดูกันหน่อยว่า ก่อนคิดจะบอกรักเพื่อนร่วมงาน ควรระวังอะไรบ้าง
1. คิดถึงผลที่ได้จากการบอกรัก ก่อนอื่นควรรู้เบื้องหลังของคนที่คุณแอบปลื้มซักหน่อย ว่า เขามีครอบครัว มีคนรัก หรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่หรือยัง ถ้าไม่มีก็ถือว่า พระเจ้าเปิดไฟเขียวให้คุณแล้วล่ะ!! หลังจากนั้นก็ถึงเวลาหยั่งเชิงความรู้สึกของเขาหรือเธอ และหากเขามีใจให้ ก็ถึงเวลาบอก ‘รัก’ อย่างมีศิลปะ แต่หากเขาหรือเธอไม่ปลื้มคุณขึ้นมา คุณจะเลือกวิธีตื้อ หรือรีบบอกลาก็ได้ไม่ว่ากัน แต่อย่าลืมว่า คุณทั้งสองยังต้องทำงานร่วมกันอีกนาน
2. ไม่ควรตกหลุมรักเจ้านาย ไม่ว่าบอสซี่ของคุณจะหล่อ หรือสวยแค่ไหน แต่การตกหลุมรักเขาหรือเธอคนนั้น จนถึงขั้นแอบติดต่อกัน และยังแอบออกเดตด้วยกันอีก ย่อมสร้างความสงสัยให้เพื่อนร่วมงานของต้องคอยจับผิด ยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แค่ชั่วคราว ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ยิ่งทำให้อายุการทำงานของคุณสั้นลงตามไปด้วย
3. อย่าแสดงความรักจนเลี่ยนในที่ทำงาน เมื่อความรักผลิบานในที่ทำงาน ก็ไม่ควรแสดงออกให้เกินเลยจนเพื่อนร่วมงานข้างๆ อิจฉา หรือหมั่นไส้ พลอยทำให้ใครๆ ต่างไม่อยากคบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำงานที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน และหากคุณเป็นถึงเจ้านายคนที่ต้องคุมลูกน้องด้วยแล้วล่ะก็ การต้องวางฟอร์มให้ดูเป็นโปรเฟสชั่นแนลอยู่ตลอดเวลา สำคัญอย่างยิ่ง
ข้อควรระวังเหล่านี้ เป็นเพียงบางประสบการณ์ ที่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ใช่ว่า คุณจะต้องปฏิเสธความรักที่ก่อเกิดในที่ทำงานไปซะทุกครั้ง หากองค์กรของคุณเปิดไฟเขียวให้คุณรักกันได้...
ที่มา https://counsel.spu.ac.th
30 เคล็ดลับกับความรักในออฟฟิศ
ไม่ว่าคุณกำลังจะรักใคร หรือถูกใครแอบรัก ทุกคนมีสิทธิได้รับความรักมากพอๆ กับโอกาสที่จะไปรักใคร และเมื่อเราต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ในออฟฟิศ ที่มีความล่อแหลมต่อสายตาเพื่อนๆ รวมทั้งจรรยาบรรณในการทำงาน จึงต้องรู้จักระมัดระวังและกำหนดบทบาทของตัวเองให้ดีในแบบมืออาชีพ ไม่ว่าคุณจะกำลังรักใคร หรือถูกใครแอบรัก นี่คือ 30 คำแนะนำ
10 คำแนะนำเมื่อคุณถูกแอบรัก
1. อย่าแสดงท่าทีใดๆ ถ้าเขาไม่มาสารภาพตรงๆ ว่ารักคุณ มิฉะนั้นใบหน้างามๆ จะแตกเป็นเสี่ยงชนิดต้องเข้าเตาหลอมใหม่ทีเดียวละ
2. ถ้าคนที่แอบรักคุณไม่น่าพึงใจ ก็อย่าสร้างโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันตามลำพังเด็ดขาด และควรพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผล และมิตรภาพ
3. การปฏิเสธที่ดีที่สุดคือการแสดงความรู้ขอบคุณที่เขามีความรู้สึกที่ดีด้วย และยืนยันอย่างอ่อนโยนชัดเจนในข้อจำกัดของคุณ
4. ถ้าเขาเป็นลูกผุ้ชายพอเขาจะยังคงปฏิบัติกับคุณด้วยดีในแบบเพื่อน แต่ถ้าเขาเอาคุณไปเผา หรือนำไปพูดลับหลังแบบไม่ดีก็ต้องทำใจว่าซวยแท้
5. ถ้าคุณรำคาญที่เพื่อนๆ ช่วยกันเชียร์เขาจนออกนอกหน้า ให้หาโอกาสคุยกันในแบบส่วนตัวกับเพื่อน โดยอ้างข้อจำกัดของตัวเองที่ไม่ใช่การติติง หรือไม่พอใจในข้อด้อยของเขา
6. ถ้าเขาคนนั้นเป็นเจ้านายที่คุณไม่เล่นด้วย ก็ต้องพยายามปฏิบัติต่อเขาในแบบเป็นทางการ และไม่นำไปบอกเพื่อนร่วมงานให้เขาเสียหน้า
7. ถ้าคุณยังชัดเจนและยึดมั่นในสเปคของตัวเอง ก็ต้องทำต่อไปโดยไม่ต้องหวั่นไหวอะไร การปรบมือข้างเดียวไม่มีวันดัง
8. ผู้ชายรักหน้าตาและศักดิ์ศรี ดังนั้นคุณจะทำหรือตอบโต้เขาอย่างใรก็ตาม ให้อยู่ในพื้นฐานของการให้เกียรติ โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม
9. เมื่อผู้ชายผิดหวังเขามักโทษผู้หญิงว่าเป็นคนแสดงท่าทีก่อน ดังนั้นเมื่อคุณไม่ชอบเขาในแบบนั้นก็ต้องคิดและจำกัดการแสดงพฤติกรรมทุกอย่างให้รอบคอบ อย่าให้เป็นชนวนที่เขาจะนำมากล่าวอ้างได้ว่าคุณให้ท่า
10. แม้จะรำคาญการถูกตามตื้อ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนเขาเป็นมิตรได้ ย่อมดีกว่าเพิ่มศัตรูอีกหนึ่งคน
10 คำแนะนำเมื่อคุณรักเขาข้างเดียว
1. อย่าพยายามสร้างโอกาสใกล้ชิดเขา
2. หลบหน้าเขาไปเลยถ้าคุณยังทำใจไม่ได้
3. บอกตัวเองว่าคุณมาทำงานเพื่อรายได้ ไม่ใช่มาหาคนรัก
4. พยายามทำตัวเองให้ยุ่งมากๆ จะได้คิดถึงเขาน้อยลง
5. การถูกปฏิเสธไม่ใช่การเสียฟอร์ม แต่เป็นการทำให้ตัวเองได้รับคำตอบที่ชัดเจน และตัดใจได้
6. เมื่อคุณต้องทำงานร่วมกับเขา พยายามทำให้เต็มสปิริตด้วยจรรยาบรรณและหน้าที่
7. ยอมรับกับตัวเองว่าคุณยังทำใจไม่ได้ในช่วงแรก และไม่ต้องพยายามกลบเกลื่อน เพียงแต่ต้องคิดให้ตกว่าจะต้องปฏิบัติกับเขาอย่างไรในอนาคต
8. เพิ่มความนับถือตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการทำให้ตัวเองสวยและฉลาดขึ้นกับการลงคอร์สความงาม หรือเรียนปริญญาโทอีกใบ
9. อย่าเป็นองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน เอาเขาหรือคนที่เขาคบไปพูดในแง่ลบเด็ดขาด เพราะคุณเองจะถูกมองในด้านเสี่อมเสีย และเป็นอาหารปากให้แมงเม้าท์
10. ถ้าทำทุกอย่างสุดความสามารถแล้วแต่คุณยังทำใจไม่ได้ ลองให้เวลากับตัวคุณเองอีก 3 เดือน เพื่อหางานที่ถูกใจที่อื่นแล้วค่อยลาออก อย่าบุ่มบ่ามประชดตัวเองหรือคิดจะทำให้เขาเจ็บ หรือรู้สึกผิดกับการตัดสินใจที่ไม่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
10 คำแนะนำในการคบหากันในออฟฟิศ
1. คุณต้องแยกเรื่องส่วนตัวและงานให้เด็ดขาดชัดเจน อย่าเอามารวมกัน
2. คุยเรื่องงานในเวลางานให้น้อยสุด หรือไม่คุยกันเลย
3. ไม่คุยเรื่องส่วนตัวในเวลางาน รวมทั้งไม่ส่งข้อความส่วนตัวทางเมล์หากัน
4. ต่างคนต่างมีความอิสระเสมือนทำงานคนละออฟฟิศ กินข้าวและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในกลุ่มของตัวเอง
5. วางใจให้เป็นกลาง หรือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้จะยิ่งดีเมื่อมีใครคาบข่าวชู้สาวของเขามาบอก
6. อาจมีสาวในออฟฟิศเข้ามาวอแวกับเขาต่อหน้าคุณ อย่าแสดงอาการหึงหวงเพราะคุณกำลังถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา
7. ถ้าเป็นไปได้ระหว่างทำงานคุณไม่ควรเจอกับเขาเลยจะดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ทำให้คุณคิดมาก หรือเห็นภาพบาดตาบาดใจ
8. อย่าบอกทุกเรื่องราวของคุณ รวมทั้งความลับ และอย่ามีเพศสัมพันธ์กับเขาในช่วงแรกที่คบหากัน รอให้คุณมั่นใจและรู้จักเขาดีก่อน
9. อย่าสร้างโอกาสให้คุณและเขาอยู่ด้วยกันในที่ลับตาคน เพราะอารมณ์อาจพาคุณเตลิดไปและอาจทำให้คุณต้องเสียใจกับตัวเองรวมทั้งข่าวฉาว
10. การไม่เปิดเผยความสัมพันธ์จนกว่าคุณและเขาต่างเป็นตัวจริงของกันและกัน ดีกว่าการเปิดเผยแต่แรกและจบลงในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญบุคคลรอบข้างจะเข้ามาจุ้นจ้านจนคู่ของคุณไม่มีความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลจาก นิตยสาร WOMAN PLUS Vol.8 No.401 ฉบับวันที่ 7 กันยายน 2550
ที่มา www.genex-school.com
