ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก หมายถึง, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก คือ, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก ความหมาย, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก

ต่อไปนี้เป็นบทความที่ผมแปลมาจาก 'การสัมภาษณ์ Noam Chomsky (Interview With Chomsky)' โดย Schnews (มีคนสัมภาษณ์หลายคน)เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2002 จากเว็บ zmag.org

คำนำของผู้แปล

Noam Chomsky (1928 - ?) เป็นศาสตราจารย์ทางด้านวิเคราะห์ภาษาของ MIT และนักวิจารณ์นโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ หัวเอียงซ้ายตัวยงมานับตั้งแต่สงครามเวียดนาม บทสัมภาษณ์นี้มีขึ้นในปี 2002 หนึ่งปีก่อนที่สหรัฐ ฯกับฝ่ายพันธมิตรเริ่มใช้กองกำลังบุกยึดอิรัก ถึงแม้บางอย่างอาจจะคลาดคลื่อนจากความเป็นจริงแต่มีหลายอย่างที่สอดคล้องกับความเป็นจริงโดยเฉพาะอิหร่าน นับว่าชอมสกี้เป็นนักวิชาการณ์ที่มีวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง เนื่องจากบทสัมภาษณ์ยาวมาก ผู้แปลจึงขออนุญาตตัดบางส่วนออกไป ส่วนหมายเหตุเป็นผลงานของผู้แปลคือผมเองครับ

(ขอสงวนลิขสิทธิ์บทแปล หากผู้ใดนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรืออ้างอิงชื่อ ผู้แปลจะดำเนินคดีตามกฏหมาย)


Mark Thomas : ถ้าเราเริ่มต้นด้วยนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯเกี่ยวกับอิรัก และสงครามกับการก่อการร้าย คุณคิดว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในชั่วโมงนี้ ?

ชอมสกี้:ในขั้นแรก เราคิดว่าเราไม่ควรที่จะใช้วลีที่ว่า 'สงครามต่อต้านการก่อการร้าย'ไม่มีทางจะมีสงครามพรรค์นี้หรอกเพราะความเป็นไปได้ทางตรรกะเท่ากับศูนย์ สหรัฐ ฯ เป็นหนึ่งในรัฐแห่งการก่อการร้ายชั้นนำของโลก ไอ้พวกที่กำลังรับผิดชอบ(ในการทำสงคราม)ในตอนนี้ล้วนแต่ถูกประนามว่าว่าเป็นพวกก่อการร้ายเสียเองโดยศาลโลก พวกเขาจะถูกประนามโดยสภาความมั่งคงของสหประชาชาติเว้นแต่ว่าพวกเขาได้วีโต้มติ พร้อมด้วยอังกฤษยกเว้นการออกเสียง คนเหล่านี้ไม่สามารถนำสงครามต่อสู้การก่อการร้าย ไม่ต้องมาตั้งคำถามกันหรอก พวกเขาประกาศสงครามเมื่อยี่สิบปีก่อน และเรารู้ว่าพวกเขาได้ทำอะไร พวกเขาทำลายอเมริกากลาง พวกเขาฆ่าคนล้านห้าแสนคนคนในแอฟริกาใต้ เราสามารถดูจากบัญชีรายชื่อได้ ดังนั้นจึงไม่มี 'สงครามต้านการก่อการร้าย'

มีการก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน อันเป็นเรื่องประหลาด เป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ตะวันตกเผชิญกับการโจมตีแบบนี้ที่ทั่วโลกมักจะพบอยู่บ่อยๆ เหตุการณ์ 11 กันยายน ต้องเปลี่ยนนโยบายอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐ ฯ แต่ทั่วโลก ทุกรัฐบาลในโลกเห็นว่านี่เป็นโอกาสในการเพิ่มความกดขี่และความหายนะเข้าไปอีก จากรัสเซียเล่นงานพวกเชเชน ไปสู่ตะวันตกที่เพิ่มกฏระเบียบต่อประชาชนของตนเข้าไปอีก สิ่งนี้มีผลอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่นการบุกยึดอิรัก ก่อนวันที่ 11 กันยายน สหรัฐ ฯได้ครุ่นคิดมาเป็นเวลานานต่ออิรักที่ว่าอิรักเป็นประเทศที่สำรองน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าสหรัฐฯ จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเข้าไปยึดมัน เหตุการณ์วันที่ 11 กันยายนเป็นเพียงข้ออ้าง มีการเปลี่ยนแปลงในวาทกรรมที่เกี่ยวข้องกับอิรักภายหลังวันที่ 11 กันยายน ตอนนี้เราก็จะได้มีข้ออ้างไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่เราได้วางไว้

รู้สึกว่าตั้งแต่กันยายนของปีนี้เองที่สหรัฐ ดูเหมือนจะเปลี่ยนอย่างกระทันหันมาเป็น 'ภัยคุกคามอย่างน่ากลัวต่อการดำรงอยู่ของเรา' Condoleeza Rice (ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ในขณะนั้น) ออกมาเตือนว่าหลักฐานครั้งหน้าของระเบิดนิวเคลียร์อาจจะเป็น กลุ่มควันลูกเห็ดเหนือกรุงนิวยอร์ก มีการรณรงค์ทางสื่อมวลชนพร้อมด้วยคนสำคัญทางการเมืองนั้นคือเราต้องทำลายซัดดัมในหน้าหนาวนี้มิเช่นนั้นเราก็จะตายกันหมด คุณต้องยกย่องพวกปัญญาชนเหล่านี้ที่ไม่สังเกตว่าคนที่กลัวซัดดัม ฮุสเซ็นคือคนอเมริกัน ทุก ๆ คนเกลียดเขาและชาวอิรักย่อมกลัวเขาอย่างแน่นอน แต่ภายนอกอิรักและสหรัฐฯ ไม่มีใครกลัวเขา ไม่ใช่คูเวต อิหร่าน ไม่ใช่อิสราเอล ไม่ใช่ยุโรป คนเหล่านั้นเกลียดเขาแต่ไม่ได้กลัวเขา

ในสหรัฐ ฯ ผู้คนกลัวกันมาก ไม่ต้องมาตั้งคำถาม การสนับสนุนในการทำสงครามจากโพลล์ของสหรัฐ ฯ อาจจะดูมีไม่มาก แต่มันมาจากความกลัว มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซากในประเทศนี้ เมื่อลูก ๆ ของผมไปเรียนที่โรงเรียนประถมเมื่อสี่สิบปีก่อน พวกเขาถูกสอนให้ซ่อนหน้ากากไว้ใต้โต๊ะในกรณีที่มีการโจมตีโดยระเบิดนิวเคลียร์ ผมไม่ได้พูดเล่น ประเทศนี้มักจะกลัวทุกสิ่ง ๆ ยกตัวอย่างเช่นอาชญากรรม อาชญากรรมในสหรัฐฯนั้นเปรีบเทียบได้อย่างคร่าว ๆ กับสังคมอุตสาหกรรมอื่นๆ นั้นคือค่อนไปทางระดับสูง แต่ในทางกลับกัน ความกลัวอาชญากรรมของพวกเขากลับเหนือกว่าสังคมอุตสาหกรรมอื่นๆ สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเจตนา คนเหล่านั้นบัดนี้อยู่ในรัฐบาล จำได้ไหมว่าพวกเขาเกือบทั้งหมดเคยอยู่ในรัฐบาลเมื่อทศวรรษที่แปดสิบ และผ่านพวกมันมาแล้ว พวกเขารู้อย่างแจ่มแจ้งว่าจะเล่นเกมอย่างไรดี ตลอดทศวรรษที่แปดสิบ พวกเขาจะวางแผนเป็นครั้งเป็นคราวในการทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว

การสร้างความกลัวนั้นไม่ยากขนาดนั้น แต่ในเวลานี้จังหวะช่างชัดเหมาะเจาะสำหรับการหาเสียงสำหรับสภาคองเกรสนั้นกำลังจะเริ่มต้นในปีหน้า พวกเขาจะมีชัยชนะให้จงได้ ไม่ว่าจะเป็นครั้งนี้และครั้งต่อไป มิเช่นนั้นแล้วประชาชนจะเริ่มสนใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับพวกเขาซึ่งหมายถึงการโจมตีครั้งใหญ่ต่อประชาชนเหมือนกับในทศวรรษที่แปดสิบ พวกเขาก็ได้เอาลิเกเรื่องเก่ามาเล่นอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาได้ลงมือครั้งแรกในทศวรรษที่แปดสิบ ในปี 1981 คือการนำประเทศไปสู่สภาวะเงินฝืดครั้งใหญ่ ครั้งนี้พวกเขาทำอีกครั้งโดยการตัดภาษีของคนรวยและเพิ่มงบประมาณของประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบยี่สิบปี

สิ่งนี้ทำให้เกิดการบริหารประเทศที่ฉ้อฉลอย่างมาก เหมือนกับพวกผู้บริหารเอ็นรอนประมาณนั้น ดังนั้นผลประโยชน์จำนวนมหาศาลได้ตกอยู่ในเมืองของกลุ่มคนโฉดที่แสนฉ้อฉล คุณไม่สามารถหาอ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้จากหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ ดังนั้นคุณต้องผลักดันมันออกจากหน้าแรก คุณต้องทำให้ประชาชนไม่สนใจเรื่องมัน และหนทางเดียวเท่าที่จะคิดออกก็คือทำให้ประชาชนหวาดกลัวและพวกเขาก็ทำได้อย่างดี ดังนั้นจึงมีปัจจัยทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับจังหวะ เหตุการณ์ 11 กันยายนได้กลายเป็นข้ออ้าง และก็มีผลประโยชน์มหาศาล ระยะยาว (ในอิรัก) ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำสงคราม การคาดคะเนของผมก็คือว่าพวกเขาจะต้องทำให้มันจบสิ้นก่อนจะมีรณรงค์สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ปัญหาก็คือเมื่อคุณอยู่ในสงคราม คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น มีโอกาสเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องแบบปลอกกล้วยเข้าปาก และมันควรจะเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่มีกองทัพของอิรัก ประเทศก็จะอาจจะล่มสลายภายในสองนาที แต่คุณไม่อาจจะมั่นใจได้เช่นนั้น ถ้าคุณเชื่อในคำเตือนของซีไอเออย่างจริงจัง พวกเขาตรงไปตรงมาเกี่ยวกับมันมาก พวกเขากล่าวหากมีสงคราม อิรักอาจจะโต้ตอบด้วยการก่อการร้าย ลัทธิชอบเสี่ยงของสหรัฐฯ ก็อาจจะนำประเทศต่างๆ ไปสู่การพัฒนาอาวุธทำลายล้างมนุษยชาติเพื่อมาตอบโต้ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นๆ การต่อสู้แบบธรรมดาอาจจะไม่ได้ผลอย่างชัดเจน ทางเดียวที่คนจะป้องกันตัวเองก็ต้องพึ่งการก่อการร้ายและอาวุธทำลายล้างมนุษยชาติ และตอนนี้ผมคาดว่าพวกเขาก็กำลังทำมันอยู่ (1)ผมคิดว่ามันเป็นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ของซีไอเอและหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน
แต่คุณไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นในตอนกลาง ๆ ของการรณรงค์เพื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี มีปัญหาว่าจะทำอย่างไรต่อผลกระทบของสงคราม แต่ก็ง่ายนะ คุณสามารถพึ่งพาอาศัยนักหนังสือพิมพ์และพวกปัญญาชนไม่ให้พูดเกี่ยวกับมัน มีสักกี่คนเชียวที่จะมาพูดถึงอัฟกานิสถาน ประเทศนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วนั้นคือยังคงถูกควบคุมโดยพวกขุนศึกและพ่อค้ายาเสพติด มีใครเขียนเกี่ยวกับมันบ้างๆ ? แทบไม่มีใครเลย หากมันกลับไปเป็นสิ่งที่ไม่มีคนสนใจ ทุกคนก็หลงลืมเกี่ยวกับมันสิ้น

ถ้าหากอิรักหันไปสู่สภาวะที่ผู้คนฆ่าฟันกันเอง ผมก็สามารถเขียนบทความในตอนนี้ได้เลยว่า 'ไอ้พวกล้าหลัง ดูสิพวกเราพยายามช่วยเหลือพวกเขาแต่พวกเขากลับต้องการฆ่ากันเองเพราะพวกเขาเป็นอาหรับสกปรก'แล้วผมก็สันนิฐานได้ว่า ก็แค่เดาล่ะนะว่า พวกเขา (สหรัฐฯ )จะทำสงครามต่อไปอาจจะเป็นซีเรียหรืออิหร่าน เป็นความจริงที่ว่าสงครามกับอิหร่านนั้นอาจจะกำลังใกล้เข้ามา เป็นที่รู้กันว่า 12 % ของกองทัพอากาศของอิสราเอลอยู่ในบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามกับอิหร่าน พวกเขาไม่สนใจอิรัก เห็นว่าเป็นเรื่องกล้วย ๆ ที่จะเอาชนะ แต่อิหร่านนั้นเป็นปัญหาสำหรับอิสราเอล มันเป็นประเทศเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาคที่พวกเขาไม่สามารถรับมือได้ และพวกเขาก็รบเร้าให้สหรัฐ ฯเล่นงานอิหร่านให้ได้สักวันหนึ่ง ตามรายงานชิ้นหนึ่ง กองทัพอากาศของอิสราเอลกำลังบินอยู่เหนือชายแดนอิหร่านเพื่อการจารกรรม การยั่วยุและอื่นๆ และมันไม่ใช่กองทัพเล็ก ๆเสียด้วย มันใหญ่กว่ากองทัพอากาศของอังกฤษเสียอีก ใหญ่ยิ่งกว่าของนาโต้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสงคราม มีการอ้างว่ามีความพยายามในการก่อกวนพวกแบ่งแยกดินแดน Azeri ซึ่งมีความเป็นไปได้ นั่นเป็นสิ่งที่พวกรัสเซียพยายามทำในปี 1946 และนั่นจะแยกอิหร่านออกเป็นส่วน ๆ และสิ่งที่หลงเหลือหลังจากนั้นคือการเป็นจุดศูนย์กลางในการผลิตน้ำมันของทะเลแคสเปี้ยน คุณก็สามารถแบ่งเค็กจากมันได้ หากจะมีการทำสงครามแล้ว ก็จะมีเรื่องปลุกระดมว่าอิหร่านจะฆ่าพวกเราในวันพรุ่งนี้อย่างไร ดังนั้นพวกเราควรจะที่จะกำจัดพวกเขาออกไปในวันนี้ อย่างน้อยมันก็เป็นรูปแบบ

กลุ่มต่อต้านการค้าอาวุธสงคราม: คุณมีความคิดเห็นอย่างไรที่ว่าการทำสงครามของสหรัฐฯเป็นเหมือนกับการโฆษณาต่ออาวุธของบริษัทที่ผลิตอาวุธของกองทัพขนาดใหญ่ ?

ชอมสกี้: คุณต้องจำได้ว่าสิ่งที่เรียกว่าอุตสาหกรรมอาวุธเป็นเพียงอุตสาหกรรมไฮเท็ค กองทัพเป็นเพียงฉากหน้าของหน่วยงานรัฐในส่วนของเศรษฐกิจ ใน MIT [Massachusetts Institute of Technology]ซึ่งผมทำงานอยู่ ทุกคนก็รู้เรื่องนี้หมดอาจจะยกเว้นสำหรับนักเศรฐศาสตร์บางคน ทุกคนต่างรู้ว่ามันเป็นเพราะทุกคนถูกปิดปากด้วยเงินเดือน งานหลั่งไหลมาเอ็มไอทีภายใต้สัญญากับกองทัพในการผลิตระบบเศรษฐกิจแบบไฮเท็คยุคใหม่ ๆ หากคุณมาพิจารณาถึงสิ่งที่เรียกว่า ระบบเศรษฐกิจใหม่ นั่นคือคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต มันตรงมาจากเอ็มไอทีภายใต้สัญญาเพื่อการวิจัยโดยมีฉากหน้าของการผลิตของกองทัพและมันก็ถึงมือของ IBM เมื่อคุณสามารถขายบางสิ่งบางอย่างได้ ... มันมักเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วที่ทำให้เศรษฐกิจรุดหน้าต่อไป

หนึ่งในเหตุผลที่สหรัฐ ฯ ต้องการควบคุมน้ำมันเพราะผลประโยชน์จะหลั่งไหลกลับมาและไหลกลับมาในหนทางต่าง ๆ มันไม่ใช่แค่ผลประโยชน์จากน้ำมัน แต่ยังเป็นการขายอาวุธ ผู้ที่ซื้ออาวุธที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯและอาจจะรวมถึงอังกฤษคือ ซาอุดิ อาระเบียหรือสหรัฐ อาหรับเอมิเรต ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ผลิตน้ำมันที่ร่ำรวย พวกเขาซื้ออาวุธมากที่สุดและนั่นคือผลประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมไฮเท็คในสหรัฐฯ เงินไหลกลับมาที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ และสิ่งนี้เป็นสิ่งแรกที่ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯและอังกฤษเฟื่องฟู ผมไม่รู้ว่าคุณได้ดูบันทึกหรือเปล่า แต่ในปี 1958 เมื่ออิรักเข้าโจมตีตึกที่ผลิตน้ำมันของอเมริกาและอังกฤษ อังกฤษเป็นบ้าเจียนตาย เพราะขณะนั้นพวกเขายังคงพึ่งพิงอยู่กับผลประโยชน์จากคูเวต พวกเขาต้องการเงินสำหรับสนับสนุนเศรษฐกิจของตัวเอง และดูราวกับว่าสิ่งที่เกิดกับอิรักอาจจะระบาดมาสู่คูเวต ดังนั้น อังกฤษและสหรัฐฯได้ตัดสินใจมอบความเป็นเอกราชให้กับคูเวตซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคม พวกเขาบอกว่า คุณจงดำเนินงานสำนักงานของตัวเอง เสแสร้งว่าคุณมีธงชาติ อะไรประมาณนั้น อังกฤษบอกว่าถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา พวกเราจะเข้ามาแทรกแซงยังไม่แยแสต่อสิ่งใดเพื่อปกป้องการผลิตน้ำมันและสหรัฐ ฯก็สัญญาสิ่งนี้ต่อซาอุดิอาระเบียและเอมิเรต

CAAT: ยังมีความคิดที่ว่ามีความพยายามของสหรัฐฯ ในการควบคุมยุโรปและประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก

ชอมสกี้ :แน่นอนอย่างยิ่ง คนฉลาดอย่างเช่น George Kennan (2) เคยชี้ว่า การควบคุมแหล่งน้ำมันของตะวันออกกลางจะทำให้สหรัฐฯ มีสิ่งที่เรียกว่า "อำนาจในการวีโต้" เหนือประเทศอื่น ๆ เขาหมายถึงเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่น บัดนี้พวกญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้อย่างดี พวกเขาก็พยายามอย่างยิ่งในการหาหนทางเป็นของตัวเองในการเข้าสู่น้ำมัน นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาพยายามอย่างหนักและก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เช่นการสถาปนาความสัมพันธ์กับอินโดนีเซียและอิหร่านและอื่นๆ เพื่อที่จะนำตัวเองออกจากระบบที่ถูกควบคุมโดยตะวันตก จริง ๆ แล้วหนึ่งในแผนมาร์เชลล์ (หลังสงครามโลกครั้งที่สอง) แผนการณ์อันดีงามยิ่งใหญ่นี้คือการเปลี่ยนแปลงยุโรปและญี่ปุ่นจากประเทศที่อิงกับถ่านหินมาเป็นอิงกับน้ำมัน ยุโรปและญี่ปุ่นต่างมีทรัพยากรคือถ่านหิน แต่พวกเขาได้เปลี่ยนเป็นน้ำมันเพื่อที่จะให้สหรัฐ ฯเข้ามาควบคุม เงินจากแผนมาร์เชลล์จำนวนกว่า 2 พันล้านถึง 13 พันล้านเหรียญถูกส่งไปยังบริษัทน้ำมันเพื่อช่วยเปลี่ยนยุโรปและญี่ปุ่นให้มีเศรษฐกิจที่อิงกับน้ำมัน

ในเรื่องอำนาจมันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการเข้าไปควบคุมแหล่งทรัพยากรและน้ำมันถูกคาดว่าจะเป็นแหล่งสำคัญในหลายชั่วอายุคนต่อมา ในปี 2000 สภาหน่วยข่าวกรองแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมหน่วยข่าวกรองต่างๆ ได้ตีพิมพ์แผนการณ์ที่เรียกว่า 'Global Trends 2015'(แนวโน้มโลกในปี 2015)โดยมีการพยากรณ์ที่น่าสนใจว่าการก่อการร้ายจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเพราะปรากฏการณ์โลกาภิวัฒน์ พวกเขาได้กล่าวถึงมันอย่างตรงไปตรงมา พวกเขาบอกว่าสิ่งที่ถูกเรียกว่า โลกาภิวัฒน์จะนำไปสู่การแบ่งแยกทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้นไปอีกตรงกันข้ามกับที่ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ได้พยากรณ์ไว้ แต่พวกเขาเป็นพวกที่ยึดกับความจริงของโลก มันจะนำไปสู่ความวุ่นวาย ความตึงเครียดและความเป็นปรปักษ์ และโดยมากมันจะมุ่งหน้ามาสู่สหรัฐฯ พวกเขายังพยากรณ์อีกว่าน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียจะสำคัญขึ้นไปเรื่อย ๆ สำหรับระบบอุตสาหกรรมและพลังงานของโลก แต่สหรัฐฯ จะไม่พึ่งพึงกับมัน แต่จะไปเข้าควบคุมมัน การควบคุมแหล่งน้ำมันนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญกว่าการเข้าถึง เพราะการควบคุมหมายถึงอำนาจ...

เชิงอรรถ

(1) ชอมสกี้เดาผิดเกี่ยวกับอิรัก เพราะมีการพิสูจน์หลายปีหลังจากนั้นว่าไม่มีอาวุธร้ายแรง แต่ก็ถูกในส่วนของอิหร่านและเกาหลีเหนือ

(2) George Kennan (1904–2005)เป็นนักการทูต ที่ปรึกษาของกระทรวงการต่างประเทศและนักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสถาปนิกแห่งสงครามเย็น

ภาพและที่มา  www.bloggang.com



แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก หมายถึง, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก คือ, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก ความหมาย, แฉเบื้องหลังสหรัฐ ฯ เข้ายึดครองอิรัก คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu