ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

วิธีการปรุงยาสมุนไพร, วิธีการปรุงยาสมุนไพร หมายถึง, วิธีการปรุงยาสมุนไพร คือ, วิธีการปรุงยาสมุนไพร ความหมาย, วิธีการปรุงยาสมุนไพร คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
วิธีการปรุงยาสมุนไพร

          ตำรายาไทยส่วนใหญ่กล่าวถึงวิธีปรุงยาไว้ ๒๔ วิธี แต่บางตำราเพิ่มวิธีที่ ๒๕ คือ วิธีกวนยา ทำเป็นขี้ผึ้งปิดแผลไว้ด้วย
          ในจำนวนวิธีปรุงยาเหล่านี้มีผู้อธิบายรายละเอียดวิธีปรุงที่ใช้บ่อยๆ  ไว้ดังนี้คือ

ยาต้ม
          การเตรียม ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไป คือ ๑ กำมือ เอาสมุนไพรมาขดมัดรวมกันเป็นท่อนกลมยาวขนาด ๑ ฝ่ามือ กว้างขนาดใช้มือกำได้โดยรอบพอดี ถ้าสมุนไพรนั้นแข็ง นำมาขดมัดไม่ได้ให้หั่นเป็นท่อนยาว ๕-๖ นิ้วฟุต กว้าง ๑/๒นิ้วฟุต แล้วเอามารวมกันให้ได้ขนาด ๑ กำมือ
          การต้ม เทน้ำลงไปพอให้น้ำท่วมยาเล็กน้อย(ประมาณ ๓-๔ แก้ว) ถ้าปริมาณยาที่ระบุไว้น้อยมาก เช่น ใช้เพียง ๑ หยิบมือ ให้เทน้ำลงไป ๑ แก้ว (ประมาณ ๒๕๐ มิลลิลิตร) ต้มให้เดือดนาน ๑๐-๓๐ นาที แล้วแต่ว่าต้องการให้น้ำยาเข้มข้นหรือเจือจาง ยาต้มนี้ต้องกินในขณะที่ยายังอุ่นๆ

ยาชง
          การเตรียม ปกติใช้สมุนไพรแห้งชง โดยหั่นต้นสมุนไพรสดให้เป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ แล้วผึ่งแดดให้แห้ง  ถ้าต้องการให้ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวให้เอาไปคั่วเสียก่อนจนมีกลิ่นหอม
          การชง ใช้สมุนไพร ๑ ส่วน เติมน้ำเดือดลงไป ๑๐ ส่วน ปิดฝาตั้งทิ้งไว้  ๑๕-๒๐ นาที

ยาดอง
          การเตรียม ปกติใช้สมุนไพรแห้งดอง โดยบดต้นไม้ยาให้แหลกพอหยาบๆ ห่อด้วยผ้าขาวบางหลวมๆ เผื่อยาพองตัวเวลาอมน้ำ
          การดอง เติมเหล้าโรงให้ท่วมห่อยา  ตั้งทิ้งไว้ ๗ วัน

ยาปั้นลูกกลอน
          การเตรียม หั่นสมุนไพรสดให้เป็นแว่นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง บดเป็นผงในขณะที่ยายังร้อนแดดอยู่เพราะยาจะกรอบบดได้ง่าย
          การปั้นยา ใช้ผงยาสมุนไพร ๒ ส่วน ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม ๑ ส่วน  ตั้งทิ้งไว้ ๒-๓ ชั่วโมง  เพื่อให้ยาปั้นได้ง่ายไม่ติดมือ  ปั้นยาเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร เสร็จแล้วผึ่งแดดจนแห้ง จากนั้นอีก ๒ สัปดาห์   ให้นำมาผึ่งแดดซ้ำอีกทีเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นยา

ยาตำคั้นเอาน้ำกิน
          การเตรียม นำสมุนไพรสดๆ มาตำให้ละเอียดหรือจนกระทั่งเหลว   ถ้าตัวยาแห้งไปให้เติมน้ำลงไปจนเหลว
          การคั้น คั้นเอาน้ำยาจากสมุนไพรที่ตำไว้นั้นมารับประทาน  สมุนไพรบางอย่าง เช่น กระทือกระชายให้นำไปเผาไฟให้สุกเสียก่อนจึงค่อยตำ

ยาพอก
          การเตรียม ใช้สมุนไพรสดตำให้แหลกที่สุดให้พอเปียกแต่ไม่ถึงกับเหลว ถ้ายาแห้งให้เติมน้ำหรือเหล้าโรงลงไป
          การพอก เมื่อพอกยาแล้วต้องคอยหยอดน้ำให้ยาเปียกชื้นอยู่เสมอ   เปลี่ยนยาวันละ ๓ ครั้ง          จะเห็นว่าการปรุงยาไทย มักใช้สมุนไพรหลายชนิด และใช้วิธีการต่างๆ  ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลในการรักษา และคำนึงถึงความปลอดภัยไปพร้อมกัน จึงกำหนดอายุของยาไว้ด้วยดังนี้
          ๑. ยาผงที่ผสมด้วยใบไม้ล้วนๆ มีอายุได้ประมาณ ๓-๖ เดือน
          ๒. ยาผงที่ผสมด้วยแก่นไม้ล้วนๆ มีอายุได้ระหว่าง ๖-๘ เดือน
          ๓. ยาผงที่ผสมด้วยใบไม้และแก่นไม้อย่างละเท่ากัน มีอายุได้ประมาณ ๕-๖ เดือน

          อายุของยาที่เป็นเม็ดเป็นแท่ง หรือลูกกลอนมีกำหนดอายุไว้ดังนี้
          ๑. ยาเม็ดที่ผสมด้วยใบไม้ล้วนๆ  มีอายุประมาณ ๖-๘ เดือน
          ๒. ยาเม็ดที่ผสมด้วยแก่นไม้ล้วนๆ  มีอายุประมาณ ๑ ปี
          ๓. ยาเม็ดที่ผสมด้วยหัวหรือเหง้าของพืช  รวมกับแก่นไม้ มีอายุประมาณ ๑ ปีครึ่ง

          ทั้งยาเม็ดและยาผง ถ้าเก็บรักษาไว้ดีจะมีอายุยืนยาวกว่าที่กำหนดไว้ และถ้าเก็บรักษาไม่ดีก็อาจเสื่อมเร็วกว่ากำหนดได้

วิธีการปรุงยาสมุนไพร, วิธีการปรุงยาสมุนไพร หมายถึง, วิธีการปรุงยาสมุนไพร คือ, วิธีการปรุงยาสมุนไพร ความหมาย, วิธีการปรุงยาสมุนไพร คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 14

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu