ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

ชินชิลล่า (Chinchilla), ชินชิลล่า (Chinchilla) หมายถึง, ชินชิลล่า (Chinchilla) คือ, ชินชิลล่า (Chinchilla) ความหมาย, ชินชิลล่า (Chinchilla) คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
ชินชิลล่า (Chinchilla)

                                                    ลักษณะและพฤติกรรมตามธรรมชาติ

      ชินชิลล่า เป็นสัตว์ป่าซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ในแถบอเมริกาใต้ แถบประเทศอาเจนตินา โบลิเวีย ชิลี และเปรู ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อปี ค.ศ.1810 และสามารถเพาะขยายพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปี ค.ศ.1900

       แต่เดิมนั้นชินชิลล่ามี 2 ชนิดคือ Chinchilla brevicaudata และ Chinchilla lanigera  โดย Chinchilla brevicaudata  หูและหางจะสั้น คอและไหล่จะหนากว่า Chinchilla lanigera แต่ในปัจจุบันพบว่า Chinchilla brevicaudata ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ดังนั้นชินชิลล่าที่มนุษย์นำมาเลี้ยงจึงเป็นชนิด Chinchilla lanigera  ซึ่งยังสามารถพบได้ในป่าจำนวนเล็กน้อย (เนื่องจากในอดีตมนุษย์มักล่าชินชิลล่าเพื่อนำขนไปทำเครื่องนุ่งห่ม จึงทำให้จำนวนประชากรลดลงเป็นอย่างมาก)

       ชินชิลล่าเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีหูกางใหญ่คล้ายหนู ขนาดรูปร่างคล้ายกับกระต่าย ขนมีลักษณะแน่นและหนา เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง อุ้งเท้าออกแบบมาเพื่อการเดินบนแผ่นหิน มีหลากหลายสีสันเช่น สีเทา สีเทาอ่อน สีดำ หางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก
       ในธรรมชาติชินชิลล่าเป็นสัตว์สังคม รักความสงบ ไม่ค่อยพบการต่อสู้กันเอง และอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 100 ตัว เพื่อป้องกันภัยจากผู้ล่าในป่า เช่น เหยี่ยว สกังค์ แมวป่า และสัตว์กินเนื้ออื่นๆ  โดยอาศัยอยู่ในโพรงหรือรอยแยกของหิน สามารถกระโดดได้อย่างว่องไวและกระโดดได้สูงกว่า 5 ฟุต พฤติกรรมการหาอาหารนั้น เจ้าชินชิลล่าออกหากินในเวลากลางคืน โดยจะกินผัก ผลไม้ เมล็ดพืช แมลง รวมทั้งหญ้าแห้งเป็นอาหาร แต่ในเวลากลางวันจะนอนและต้องการความเงียบสงบ

       ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี และตั้งท้องยาวนานมากเมื่อเทียบกับสัตว์ฟันแทะชนิดอื่นคือ 111 วัน ดังนั้นลูกชินชิลล่าที่เกิดมาจึงมีขนขึ้นเต็มตัวและลืมตาแล้ว แต่มักจะมีลูกจำนวนน้อยต่อครอก ส่วนใหญ่ประมาณ 2 ตัวต่อครอก มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 15 ปี (บางตัวอาจจะมากถึง 20 ปี)

       ชินชิลล่า มักจะทำเสียงหลายๆ แบบเพื่อแสดงความรู้สึกต่างๆ เช่นเสียงเห่า เสียงร้อง และเสียงเอี๊ยดๆ คล้ายเสียงเปิดบานพับของประตู หรือ หน้าต่าง และนอกจากนั้น  ชินชิลล่าสามารถได้ยินเสียงในช่วงคลื่นความถี่ 20 - 30 Hz ซึ่งใกล้เคียงกับมนุษย์
                      
                                            ช่วงชีวิต                       เฉลี่ย 8-9 ปี สูงสุด 18 ปี
 
                                        น้ำหนักโตเต็มวัย               400-600 กรัม (ตัวเมียโตกว่า)
                                         อุณหภูมิร่างกาย                   37-38 องศาเซนเซียส
                                         อัตราเต้นของหัวใจ                100-150 ครั้งต่อนาที
                                         วัยเจริญพันธุ์                             6-8 เดือน
                                         ระยะตั้งท้อง                               111 วัน
                                         ขนาดครอก                            1-6 ตัว เฉลี่ย 2 ตัว
                                         อายุหย่านม                               6 สัปดาห์
 
 
กรงเลี้ยงและอุปกรณ์ภายในกรง

         กรงที่ใช้เลี้ยงชินชิลล่าควรจะมีขนาดใหญ่ ทำหลายๆ ระดับ เพราะชินชิลล่าชอบกระโดด มีของเล่นภายในกรงเช่น ของเล่นชนิดแขวนที่ทำจากไม้ วงล้อขนาดใหญ่ (เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 16 นิ้ว) หรืออาจจะเป็นแกนกลางของกระดาษชำระก็ได้ เส้นใยเนื้อไม้ที่เหนียวๆ หรือของเคี้ยวเล่นก็ได้ แต่ไม่ควรใช้ไม้ที่ทำจากต้นสนโดยเฉพาะต้นสนซีดาร์ เนื่องจากมียางเรซิน ซึ่งเป็นพิษต่อชินชิลล่า ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นพลาสติกภายในกรง เพราะ ชินชิลล่ามีนิสัยชอบกัดแทะวัสดุต่างๆ อาจจะเคี้ยวและกลืนพลาสติกลงไป ทำให้เกิดการอุดตันภายในลำไส้ได้ ไม่ควรใช้ขี้เลื่อยที่ทำจากต้นสนซีดาร์แดง เป็นวัสดุรองนอน เนื่องจากเป็นพิษต่อชินชิลล่า หลีกเลี่ยงการใช้กรงลวด จะทำให้บาดเท้า สามารถใช้วัสดุรองพื้นเป็นแผ่นไม้ หรือแผ่นหินตามธรรมชาติได้ เช่นเดียวกับที่รองสำหรับกระต่าย

         ตำแหน่งที่วางกรงควรจะมีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี เนื่องจากชินชิลล่าไม่สามารถหลั่งเหงื่อเพื่อระบายความร้อนได้ และการระบายความร้อนออกจากร่างกายก็ทำได้ช้า เนื่องจากมีขนที่หนา หนึ่งรูขุมขนมีเส้นขนมากถึง 60 เส้น ดังนั้นถ้าอุณหภูมิภายในกรงสูงกว่า 25°C หรือ 77°F จะทำให้เกิดภาวะลมแดด (Heat stroke) ได้ และมีความชื้นต่ำ หรือเหมาะสำหรับการเลี้ยงในห้องแอร์ หรือที่มีอากาศเย็นอยู่เสมอ ไม่ควรตั้งให้โดนแสงแดดโดยตรง แค่บางเวลาบางมุมของกรงเท่านั้น

        ในกรงอาจจะเลี้ยงเป็นคู่ หรือเลี้ยงแยกเพศเป็นกลุ่ม หรือตัวผู้หนึ่งตัวต่อตัวเมียห้าตัวกำลังเหมาะ
 
การเลี้ยง          

        เนื่องจากนิสัยตามธรรมชาติของชินชิลล่าจะเป็นสัตว์ที่กระตือรือร้นและชอบสำรวจ ดังนั้นผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่และควรจะพาออกไปเดินเล่นนอกกรงอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายและลดความเครียด

        ตามปกติชินชิลล่าจะไม่ชอบความเปียกชื้น เนื่องจากขนของชินชิลล่าจะมีลักษณะแน่นและหนา เมื่อเปียกน้ำจึงอับชื้นและขึ้นราได้ง่าย ถ้าไม่ทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว แต่จะมีสัญชาติญาณในการทำความสะอาดขนโดยกลิ้งไปมาบนทรายหรือฝุ่นหินภูเขาไฟ ซึ่งเรียกว่า Chinchilla dust (dust baths) โดยจะทำความสะอาดขนหลายครั้งใน 1 สัปดาห์ โดยการเอาฝุ่นอาบน้ำลงในขัน หรืออ่างขนาดพอตัวให้ลงคลุกด้วยตัวเอง จากนั้นประมาณ 10 นาที ให้นำเอาฝุ่นอาบน้ำออก
 
การให้อาหาร

        ชินชิลล่าเป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก มีระบบการทำงานและการย่อยอาหารที่ทางเดินอาหารส่วนท้ายเป็นหลัก เช่นเดียวกับกระต่าย มีระบบทางเดินอาหารที่เปราะบางมาก ไม่สามารถย่อยอาหารไขมันและอาหารหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีถุงน้ำดี ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเอ็นไซด์ที่ช่วยย่อยไขมันในอาหารได้ ไขมันจึงสะสมในร่างกาย และทำให้ตับถูกทำลายได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการให้อาหารที่มีรสหวานเช่น แอปเปิ้ล องุ่น หรือเรซิน และอาหารที่มีไขมันสูงเช่น เมล็ดถั่ว หรือเมล็ดทานตะวันเป็นอาหารแก่ชินชิลล่า

        ควรให้อาหารในเวลาเดียวกันทุกวัน ส่วนใหญ่นิยมให้อาหารในช่วงเย็นเนื่องจากช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ชินชิลล่ามีกิจกรรมมากที่สุด ซึ่งอาหารที่ให้อาจจะประกอบด้วยอาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดที่เหมาะสม ควรจะจำกัดอาหารเม็ด ไม่ให้เกินไปกว่าวันละ 1 - 2 ช้อนชาต่อตัว หญ้าแห้งที่มีคุณภาพสูง ที่ยอมรับ ได้แก่ หญ้าทิโมธี และน้ำสะอาด หญ้าแห้งควรเป็นองค์ประกอบหลัก เนื่องจากมีเยื่อใยสูง ช่วยในกระบวนการเคี้ยว การทำงานที่สมบูรณ์ของทางเดินอาหาร ลดปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย และยังช่วยลับฟันอีกด้วย

         อาจจะให้ลูกเกดหรือมะละกอแห้งชิ้นเล็กๆ เป็นอาหารได้ แต่ไม่ควรให้มากเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องเสียได้ หรือการให้กินในระยะยาวอาจจะทำให้อ้วนได้ การให้ผักสดเป็นอาหารอาจจะทำให้ชินชิลล่าท้องอืดและตายได้

         การเปลี่ยนอาหารต้องค่อยๆ เปลี่ยน ต้องใช้เวลาหลายๆ วัน ไม่ควรทำการเปลี่ยนในทันที การเปลี่ยนอาหารจะมีผลต่อความเป็นกรดด่าง และปริมาณจุลชีพที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จะทำให้จุลชีพเหล่านั้นตาย แบคทีเรียที่ก่อโรคจะขยายตัวเกิดปัญหาท้องเสียตามมาได้ ในแต่ละวันสิ่งที่เจ้าของต้องปฏิบัติ คือ การสำรวจมูลหรืออึ เพื่อสังเกตหาความผิดปกติ
 
โรคและความผิดปกติที่พบ

        1. ตาอักเสบติดเชื้อ (Eye infection) เกิดจากหลายสาเหตุได้แก่ มีฝุ่นผงหรือเศษของวัสดุรองนอนปลิวเข้าตา การได้รับอาหารที่ไม่เหมาะสม ความเครียด อากาศเย็นหรือโรคปอดปวม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน อาการที่พบคือ เปลือกตาจะบวม มีขี้ตาสีขาวอยู่รอบๆ ตา อาจจะมีน้ำตาไหล

        2. ปัญหาเกี่ยวกับฟัน (Tooth Care)

        3. องคชาติบวม (Swollen Penis or Paraphimosis) เกิดจากเส้นขนพันอยู่รอบๆ องคชาติ ภายหลังการผสมพันธุ์ ทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณองคชาติได้ไม่ดี จนเกิดเลือดคั่งและบวมอักเสบ

        4. บาดแผลและรอยขูดขีด (Cuts & Abrasions)

        5. การติดเชื้อรา (Ringworm)  มักพบในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว เกิดจากการติดเชื้อราชนิด Trichophyton spp. โดยอาการที่พบคือขนหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ ผิวหนังใต้ขนที่หลุดร่วงจะมีสีชมพูหรือแดง คัน ขนบางแตกหักง่าย หนวดแตกหักง่ายและบิดโค้งตรงปลาย โดยมักเป็นหนวดข้างใดข้างหนึ่ง บางตัวอาจมีน้ำตาไหลด้วย

        6. การแทะเล็มขน (Fur chewing) สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเกิดจากความเครียด ทำให้ชินชิลล่าใช้ฟันกัดแทะขนบริเวณลำตัวและขา จึงทำให้ขนบริเวณด้านข้างของขาหลังหลุดร่วง

        7. ปัญหาเกี่ยวกับหู (Ear ailments)  เป็นอาการป่วยที่พบได้ไม่บ่อยนัก สาเหตุอาจเกิดจากการได้รับอาหารที่ไม่เหมาะสม และมักมีการติดเชื้อแทรกซ้อน อาการป่วยที่พบคือ มีสิ่งคัดหลั่งไหลออกจากภายในหู ใช้เท้าเกาหู หัวเอียง และเดินเป็นวงกลม

        8. ท้องเสีย (Diarrhea) เกิดจากหลายสาเหตุได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อปาราสิตชนิด giardia, coccidia และปัญหาเรื่องฟัน อาการที่พบคืออุจจาระมีลักษณะเหลวเป็นน้ำหรืออ่อนนุ่มกว่าปกติ

        9. ท้องผูก (Constipation) เกิดจากการได้รับอาหารที่ไม่เหมาะสม อาหารมีเยื่อใยต่ำ ได้รับหญ้าน้อย หรืออาจจะเกิดจากการขาดการออกกำลังกาย ทำให้มีอุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็ก แห้งกว่าปกติ และอาจจะมีกลิ่นเหม็น การแก้ไขทำได้โดยให้ชินชิลล่ากินน้ำและหญ้าแห้งมากขึ้น ให้กินลูกเกดวันละ 1 - 2 เม็ด
หมายเหตุ ก้อนขน (furballs) อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันในลำไส้ได้ การแก้ไขโดยให้กินเอนไซม์ของมะละกอ น้ำสัปปะรด หรือน้ำมะละกอสด

       10. โรคลมแดด (Heat Strokes) เกิดจากหลายสาเหตุได้แก่ อุณหภูมิภายในกรงที่สูง การระบายอากาศภายในกรงที่ไม่เพียงพอ การได้รับแสงแดดโดยตรง และการได้กินน้ำน้อย การแก้ไขทำได้โดยนำชินชิลล่าไปไว้ในห้องที่เย็น วางพัดลมไว้ใกล้ๆ หรือวางน้ำแข็งไว้ในกรง แต่ไม่ควรนำชินชิลล่าไปแช่น้ำเย็น เพราะอาจทำให้ช็อกได้

       11. โรคติดเชื้อปาราสิต (Parasites) ปาราสิตที่พบในระบบทางเดินอาหารของชินชิลล่าได้แก่ giardia, cryptosporidium, tapeworms, hookworms, nematodes, and coccidia. และมักก่อให้เกิดปัญหาในชินชิลล่าอายุน้อยมากกว่าอายุมาก

       12. ท้องอืด (Bloating) สาเหตุเกิดจากการกินผักสด และอาหารที่มีเยื่อใยต่ำ ทำให้ทางเดินอาหารมีการบีบตัวลดลง อาการที่พบคือ ท้องกางขยายขนาดใหญ่ขึ้นคล้ายลูกบอลลูน ขับถ่ายได้ลดลง คล้ายท้องผูก สลับท้องเสีย มีเมือกเหนียวเปื้อนบริเวณก้น หรือมูลมีขนาดเล็กลงในบางราย

       13. โรคหัวใจ (Heart Murmurs)

       14. ชัก (Seizures) มักพบในชินชิลล่าอายุน้อย ชินชิลล่าที่ตั้งท้อง หรือชินชิลล่าที่ขาดวิตามินเกลือแร่หรือแคลเซียม อาการที่พบคือ สั่น โงนเงน เดินเอียง หรือเดินเป็นวงกลม

แหล่งที่มา : https://www.epofclinic.com/wizContent.asp?wizConID=156&txtmMenu_ID=7


ชินชิลล่า (Chinchilla), ชินชิลล่า (Chinchilla) หมายถึง, ชินชิลล่า (Chinchilla) คือ, ชินชิลล่า (Chinchilla) ความหมาย, ชินชิลล่า (Chinchilla) คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu