วิธีการประเมิน การป้องกัน และการหลีกหนีจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม?
อยากทราบวิธีการประเมิน การป้องกัน และการหลีกหนีจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม
อยากทราบวิธีการประเมิน การป้องกัน และการหลีกหนีจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม
ประเมินเบื้องต้นด้วยการวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม Landslide susceptibility โดยใช้อาศัยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ landslide predivtive model ข้อมูลแผนที่ภูมิประเทศ เส้นชั้นความสูง หน้าความลาดที่รับน้ำฝน ทิศทางการไหลของทางน้ำ ความลาดชัน การไหลรวมของน้ำ ความแตกต่างพืชพรรณ คุณลักษณะของดิน ความชื้นของดิน ตลอดจนปัจจัยอื่นด้านธรณีวิทยา ชนิดหิน ความหนาชั้นตะกอน ความหนาแน่นรอยแตกของหิน ซึ่งแบบจำลองคณิตศาสตร์สามารถพัฒนาใช้ได้ตามปัจจัยข้อมูลที่มีอยู่ มาคำนวณโดยการ overlay analysis ด้วย GIS จัดทำเป็น landslide hazard map หรือจะเรียก landslide susceptibility map ก็ได้ โดยจะจำแนกระดับความอ่อนไหวต่อการเกิดแผ่นดินถล่มเป็นระดับต่างๆ ได้ ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดจากการวิเคราะห์เป็นสภาพทางกายภาพที่มีความอ่อนไหวต่อการเกิดแผ่นถล่มที่ระดับต่างๆ กันอยู่แล้ว การทำนายการเกิดแผ่นดินถล่มไม่ใช้เรื่องง่ายที่ที่จะบอกว่าเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นอย่างแม่นยำได้ แต่ข้อมูลแผนที่ที่ได้เป็นบ่งชี้ถึงความเสี่ยง การบ่งบอกว่าจะเกิดแผ่นดินถล่มหรือไม่นั้นก็มีปัจจัยปริมาณน้ำฝนที่เป็น triggering factor เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ถ้าปริมาณน้ำฝนตกมากในระยะเวลาสั้นบริเวณที่มีความอ่อนไหวมากอยู่แล้วก็มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้สูงและรุนแรง และทำนองเดี่ยวกันแต่ละระดับความเสี่ยงก็แตกต่างกันไป การตรวจวัดปริมาณนำฝนเป็นราย ชั่วโมง และรายวันรอบ 24 ชม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ถ้ามีรายละเอียดข้อมูลเหล่านี้คือตารางตรวจวัดน้ำฝนรายวันในพื้นที่เสี่ยงเราก็จะทำนายได้แม่นยำ การเฝ้าระวังตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่ตกหนักนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการเตือนพิบัติภัยแผ่นดินถล่มล่วงหน้า early warning system ในพื้นที่หรือหมู่บ้านเสี่ยงภัยเพื่อการอพยพหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่สุดก่อนที่จะรอให้เกิดแผ่นดินถล่ม เพราะเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ที่มา กรมทรัพยากรธรณี
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!