ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี หมายถึง, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี คือ, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี ความหมาย, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี

          ตามหลักพื้นฐานของกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อำนาจการปกครองบ้านเมืองได้จำแนกออกเป็น ๓ ส่วนคือ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ และได้กำหนดให้ผู้ใช้อำนาจทั้งสามแยกจากกันต่างหาก คือ

          - รัฐสภา เป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ
          - คณะรัฐมนตรี เป็นผู้ใช้อำนาจบริหาร
          - ศาล เป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการดังนั้น ศาลจึงเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่พิจารณาและพิพากษาคดี ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ชั้น คือ
          - ศาลชั้นต้น (ศาลแขวง ศาลแพ่ง ศาลแรงงาน ศาลอาญา ศาลจังหวัด)
          - ศาลอุทธรณ์
          - ศาลฎีกา

          ศาลชั้นต้น เป็นศาลที่รับพิจารณาคดีในชั้นแรก มีอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  สำหรับในกรุงเทพฯ เนื่องจากมีคดีความมาก จึงได้แยกศาลตามประเภทของคดี เป็นศาลแพ่ง ศาลอาญา และหากเป็นคดีเล็กๆ น้อยๆ  ก็ให้พิจารณาคดีโดยศาลแขวง ส่วนกรณีที่เป็นคดีเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนก็ให้พิจารณาโดยศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง หากเป็นเรื่องเฉพาะที่เกี่ยวกับภาษีอากรหรือแรงงานก็ให้พิจารณาโดยศาลภาษีอากรและศาลแรงงานแล้วแต่กรณี

         สำหรับจังหวัดอื่นๆ นอกจากกรุงเทพฯศาลชั้นต้นที่ทำหน้าที่พิจารณาทั้งคดีแพ่งและคดี อาญาก็คือ ศาลจังหวัด และมีศาลแขวงทำหน้าที่พิจารณาคดีเล็กๆ  น้อยๆ  นอกจากนี้ในบางจังหวัดยังได้จัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน ศาลภาษีอากรขึ้นเพื่อพิจารณาคดีในเรื่องนั้นๆ  ด้วย

         ศาลอุทธรณ์ เป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีที่คู่ความอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้น ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายวิธีพิจารณาความ ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดว่าคดีใดอุทธรณ์ได้หรือต้องห้ามอุทธรณ์

          ศาลฎีกา เป็นศาลสูงสุดที่จะทำหน้าที่พิจารณาชี้ขาดเป็นขั้นสุดท้าย กล่าวคือ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาหรือคำสั่งใดแล้ว หากคู่ความไม่พอใจในคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายวิธีพิจารณาความ ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดว่าคดีใดฎีกาไม่ได้

          การดำเนินคดี ในคดีแพ่ง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น การเรียกค่าเสียหาย การฟ้องให้อีกฝ่ายปฏิบัติตามสัญญา การฟ้องหย่า ฯลฯ  ผู้ที่ได้รับความเสียหาย จะต้องนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้นภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ศาลดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป

          สำหรับในคดีอาญา ผู้เสียหายอาจดำเนินคดีได้ ๒ ทาง คือ ฟ้องคดีต่อศาลโดยตรงแบบเดียวกับคดีแพ่ง แต่วิธีนี้ประชาชนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบรรยายฟ้องย่อมกระทำไม่ได้ วิธีที่ปฏิบัติกันโดยทั่วไปก็คือ การไปร้องทุกข์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในอายุความที่กฎหมายกำหนดโดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เมื่อได้ร้องทุกข์แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนและส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณา หากพนักงานอัยการเห็นว่าคดีนั้นพยานหลักฐานและเหตุผลเพียงพอที่จะส่งฟ้องศาลได้ พนักงานอัยการก็จะ ดำเนินการส่งฟ้องศาล เพื่อศาลจะได้พิจารณาและมีคำพิพากษาต่อไป

องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี หมายถึง, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี คือ, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี ความหมาย, องค์กรพิจารณาและพิพากษาคดี คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 18

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu