สมองเล็กโง่ สมองใหญ่ฉลาด...จริงหรือ?
ความฉลาดของมนุษย์นั้น เกี่ยวข้องกับขนาดของสมองหรือไม่ ประณิธิ ตันพณิช nbsp nbsp จ สระบุรี
ความฉลาดของมนุษย์นั้น เกี่ยวข้องกับขนาดของสมองหรือไม่ ประณิธิ ตันพณิช nbsp nbsp จ สระบุรี
เราอาจเคยได้ยินเพื่อน ๆ พูดเล่นกันว่า เจ้าคนนี้โง่เพราะสมองเล็ก ส่วนเจ้าคนนั้นฉลาด สงสัยสมองคงจะใหญ่ ความเชื่อดังว่านี้ไม่จริงเลย สมองมนุษย์ซึ่งถือเป็นสสารที่จัดวางตัวซับซ้อนที่สุดในจักรวาล ทำหน้าที่สั่งการและประสานการเคลื่อนไหว โต้ตอบ รับและแปลความรู้สึก สมองเป็นอวัยวะสำคัญสูงสุดซึ่งอำนวยให้มนุษย์ไม่เพียงได้มาซึ่งความรู้ แต่รวมทั้งความสามารถในการใช้และประยุกต์ความรู้นั้น ๆ ด้วย ถ้าปราศจากสมอง เราคงช่วยตัวเองไม่ได้เลย แย่กว่าเด็กทารกเสียอีก เนื่องจากสถานภาพอันสำคัญยิ่งของสมองในระบบร่างกายมนุษย์ สมองซึ่งหนักเพียง ๓ เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวต้องใช้ออกซิเจนถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ของปริมาณออกซิเจนทั้งหมดที่เราหายใจเข้า ใช้พลังงาน ๒๐ เปอร์เซ็นต์ของปริมาณแคลอรีที่เรารับประทานเข้าไปในรูปของอาหาร และใช้ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณโลหิตที่ร่างกายผลิตออกมา ขนาดของสมองจะหยุดโดขึ้นเมื่อเราอายุได้ ๑๕ ปี ซึ่ง ณ เวลานั้นสมองมีน้ำหนักราว ๑ ๔ กิโลกรัม คือหนักเป็น ๓ เท่าของน้ำหนักสมองเมื่อแรกเกิด จากการศึกษาพบว่า ขนาดของสมองและระดับสติปัญญาของบุคคลไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันแต่ประการใด เราสามารถเพิ่มพูนพลังสมองได้เรื่อย ๆ แม้แต่ในช่วงปลายของชีวิต ความสามารถในการรับความรู้ของสมองแทบไม่มีขีดจำกัด สมองจุความรู้ได้มากมายมหาศาลขนาดที่ว่าระบบประสาทของมันมีกิ่งก้านสาขาเชื่อมต่อมากมายกว่าเครือข่ายโทรศัพท์สำหรับคนทุกคนบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม ระบบที่พิเศษสุดยอดนี้ก็มีวันเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา เมื่อคนเราแก่ตัวลงในช่วงอายุ ๗๐-๘๐ปี ประมาณหนึ่งในสี่ของเซลล์ประสาทหรือ quot นิวรอน quot neurons ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นสมองจะตายลง นี่อธิบายว่าทำไมคนสูงอายุบางคนจึงหลง ๆ ลืม ๆ หรือหูตึง เวลาที่เราคิด คนเราใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยกว่าตอนที่ไม่ได้ใช้ความคิด ดังนั้นการคิดจึงไม่ได้เป็นเรื่องหนักหนาอะไรนัก สมองแตกต่างจากเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างขึ้นตรงที่สมองใช้พลังงานส่วนใหญ่ไปกับการรักษาวงจรของมันให้ตื่นตัวและไวต่อสิ่งที่มากระทบ มันต้องการพลังงานอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้วงจรทำงาน ตำแหน่งของร่างกายมีอิทธิพลต่อกระบวนการการคิดของคนเรา ถ้าคุณอยู่ในท่านอน จิตใจของคุณค่อนข้างจะโลดแล่นไปไกล คิดถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ ถ้าคุณยืน พละกำลังของคุณจะมุ่งไปสู่การกระทำ ความคิดจะแคบเข้า การตัดสินใจทำได้เร็วขึ้นและแข็งขัน ส่วนท่านั่งเป็นการประนีประนอมระหว่างท่านอนกับท่ายืน อวัยวะทุกส่วนของร่างกายมีเซลล์รับความรู้สึก ซึ่งรับรู้ความเจ็บปวดและส่งต่อความรู้สึกนั้นไปยังสมอง แต่ตัวสมองเองไม่รู้จักเจ็บเพราะมันไม่มีเซลล์พิเศษดังกล่าว “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!