วิธีเลือกกินแมลง - ถามตอบที่ Sanook! Guru

อาหารที่กินอยู่ทุกวันนี้ บรรพบุรุษของเราได้พิสูจน์และทดลองกันมานานแล้ว   ถือว่าเป็นภูมิปัญญาหนึ่งที่สืบทอดต่อกันมา พืชหรือสัตว์ที่บรรพบุรุษเราไม่เคยกินมาก่อนก็อย่าริไปกินเป็นดีที่สุด   น ณ ปากน้ำ หรือประยูร   อุลุชาฏะ ศิลปินแห่งชาติ เล่าไว้ในหนังสือ อาหารรสวิเศษตำรับดั้งเดิม ว่า   “ สมัยหนุ่มนั้นข้าพเจ้าชอบทดลอง เช่น ลองเด็ดเอายอดใบชบาหรือที่เรียกว่า ต้นภู่เรือหงส์ มาเคี้ยวดู รสมันขมขื่นชอบกลบางทีไปตามสวนเห็นต้นดอกจอกในท้องร่องสะอาด อวบน่ากิน   ก็ลองเอามาล้างน้ำ จิ้มน้ำพริกกินดู วันนั้นเกือบตาย มันคันคะเยอไปทั้งปากเข็ดจนตาย เลยมีคติเกิดขึ้นมาว่า ของเหล่านี้มันเกิดมาเป็นพันปีแล้ว ก็ต้องผ่านการทดลองของผู้คนมาหลายต่อหลายชั่วคน การที่เขาไม่นิยมก็คงแสดงว่ามีโทษ หรือบริโภคไม่ได้ อย่าได้ทำตนเป็นนักค้นคว้าทดลองอีกเลย ขายหน้าเขาเปล่า ๆ เมื่อทดลองเสียจนเข็ด ก็เลยไม่ประพฤติตนเป็นนักทดลองอีกต่อไป หากสงสัยก็ต้องสอบถามเขาดูเพื่อเป็นความรู้แมลงก็เหมือนกัน เราต้องรู้ชื่อชนิดและรู้มาก่อนว่าเป็นแมลงที่เขากินกัน แต่ถ้าตกยากหรืออยู่ในสถานการณ์คับขันเป็นต้นว่าหลงป่าไม่มีอะไรจะกิน จำต้องจับแมลงกินประทังชีวิตก็ขอให้พิจารณาดังต่อไปนี้   ๑ ควรเลือกชนิดแมลงที่อาศัยอยู่กับต้นไม้ อยู่กับป่าละเมาะ หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชเลย ๒   เป็นแมลงที่จับมาขณะยังมีชีวิตอยู่ ๓   ควรหลีกเลี่ยงแมลงที่มีสีสันสดใส ซึ่งจะมีพิษมากกว่าพวกที่สีซีด ๔   ทำให้สุกก่อนรับประทาน อาจจะโดยการคั่ว ทอด ย่างหรือนึ่งก็ได้ ๕ ปีก ขน ขา หรือหนามแข็งของแมลง ควรจะเด็ดทิ้งก่อนนำไปรับประทาน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการคันได้   ในประเทศไทยมีรายงานว่า มีแมลงมากกว่า ๕๐ ชนิดที่รับประทานได้ ตัวอย่างเช่น แมลงกระชอน แมลงกินูน แมงกุดจี่ จิโปม จิ้งหรีด แมงดานา ดักแด้ไหม   ตั๊กแตนเล็ก ตั๊กแตนใหญ่แมลงตับเต่า ไข่มดแดง ฯลฯ “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”